วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2561
วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561
ครั้งที่ 14
17 เมษายน 2561
อาจารย์ให้จับกลุ่มเลือก ๘ คุณธรรมพื้นฐาน กลุ่มของพวกเราเลือก " ขยัน " อาจารย์ให้หาวิดีโอเกี่ยวกับสิ่งที่เราเลือกแล้วมานำเสนอจากนั้นแต่ละกลุ่มได้ออกมาเปิดวิดีโอเสร็จ อาจารย์ก็สอนเรื่อง " อาหารและโภชนาการสำหรับเด็ก "
>> อาหารเป็นสิ่งสำคัญที่สุดต่อร่างกายของมนุษย์นับตั้งแต่ปฏิสนธิอยู่ในครรภ์มารดาเมื่อเริ่มมีชีวิตทารกจะได้รับอาหารผ่านทางสายรกและใช้ในการเจริญเติบโตตลอดมา <<
>> อาหารที่เรากินเข้าไปจะส่งผลต่อร่างกายของเรา เช่น เรากินอาหารที่มีคุณค่าประกอบไปด้วย เนื้อสัตว์ แป้ง น้ำตาล ผัก ผลไม้ ในปริมาณที่พอเหมาะพอควร เราก็จะสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างกระฉับกระเฉง มีพลังที่จะดำเนินชีวิตประจำวันได้ <<
หลักของโภชนาการได้จัดแบ่งอาหารเป็นหมู่ได้ 5 หมู่ ได้แก่
อาหารหมู่ที่ 1 เนื้อสัตว์ต่างๆ ถั่วเมล็ดแห้ง ช่วยสร้างเสริมและซ่อมแซมอวัยวะต่างๆ
อาหารหมู่ที่ 2 ข้าว หัวเผือก หัวมัน แป้ง น้ำตาล ให้พลังงานความอบอุ่น
อาหารหมู่ที่ 3 ผักใบเขียวและพืชผักต่างๆให้วิตามิน เกลือแร่และเส้นใย
อาหารหมู่ที่ 4 ผลไม้ต่างๆให้วิตามินและเกลือแร่
อาหารหมู่ที่ 5 ไขมัน น้ำมันจากพืชและสัตว์ ให้พลังงานและความอบอุ่น
ข้อปฏิบัติในการจัดเตรียมอาหารของเด็กในวัยทารก
1. ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดก่อนจับต้องอาหาร
2. ใช้ภาชนะที่สะอาด โดยจัดเก็บอย่างมิดชิดไม่ให้แมลงวันหรือแมลงอื่นๆไต่ตอม
3. อาหารที่ปรุงทุกชนิดต้องล้างให้สะอาด ภาชนะที่ใช้ในการหุงต้มและประกอบอาหาร เช่น หม้อ กระทะ จาน ชาม มีด ต้องล้างให้สะอาดก่อนและหลังใช้ทุกครั้งแยกภาชนะของเด็กและผู้ใหญ่รวมไปถึงมือของผู้ประกอบอาหารก็ต้องสะอาดด้วย
4. อาหารและน้ำจะต้องสุกทั่วถึงและทิ้งระยะเวลาให้อุ่นลงไม่ร้อนจัดเวลานำมาป้อนเด็ก หากเด็กกินเหลือไม่ควรเก็บไว้
5. อาหารของเด็กจะต้องมีรสธรรมชาติ ไม่ควรใส่สารปรุงแต่งอาหารให้มีรสชาติเกินธรรมชาติ เช่น ไม่เค็ม หวาน เปรี้ยวเกินไป หรือไม่ควรใส่ผงชูรส
6. ต้มหรือตุ๋นข้าวจนสุกและ แล้วนำมาบดให้ละเอียดโดยใช้กระชอนหรือใส่ในผ้าขาวบางห่อแล้วบีบรูดออกหรือบดด้วยช้อนก็ได้
7. สับหมู หั่นผักให้ละเอียดก่อนนำไปหุงต้ม ส่วนตับให้ต้มให้สุกแล้วต่อยยีให้ละเอียด
8. ให้กินเนื้อปลาสุกโดยการย่างหรือนึ่ง หรือต้ม ไม่ควรให้กินหนังปลา
9. ให้กินน้ำแกงจืดผสมกับข้าว โดยใช้แกงจืดหรือน้ำผัดผักแต่ต้องไม่เค็ม
10. เด็กที่มีอายุ 7 เดือนแล้วกินถั่วเมล็ดแห้งได้ อาจน้ำไปหุงต้มปนไปกับข้าวหรือจะนำไปทำเป็นขนมผสมกับน้ำตาลและนม
ข้อควรคำนึงในการให้อาหารแก่เด็กทารก
1. อย่าให้อาหารอื่นใดนอกจากนมแม่ในระยะ 4 เดือนแรกเพราะจะทำให้เด็กทารกรับประโยชน์จากนมแม่ไม่เต็มที่
2. เพื่อเป็นการหัดให้เด็กคุ้นเคย ควรเริ่มให้อาหารอื่นนอกจากนมแม่ตามที่แนะนำไว้
3. เริ่มให้อาหารทีละอย่าง ทีละน้อยๆ
4. อาหารทุกชนิดควรใช้ช้อนเล็กๆป้อนเพราะต้องการให้เด็กรู้จักกินอาหารจากช้อน
5. ควรทิ้งระยะในการที่จะเริ่มอาหารใหม่แต่ละชนิดเพื่อดูการยอมรับของเด็กทารกและเพื่อสังเกตดูว่าทารกแพ้อาหารหรือไม่
6. ควรจัดให้กินอาหารของเหลวก่อน
7. ให้กินน้ำต้มสุกหลังอาหารในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายทำหน้าที่ต่างๆได้สมบูรณ์และช่วยในการขับถ่ายของเสียรวมทั้งทำความสะอาดช่องปากของเด็กทารก
8.เมื่อเด็กทารกเริ่มมีฟันขึ้น ให้กินอาหารสับละเอียดไม่ต้องบดเพื่อฝึกให้เด็กหัดเคี้ยว
9. ให้อาหารที่สดใหม่และทำสุกใหม่ๆ
10. อย่าบังคับเด็กกินเมื่อเด็กไม่ต้องการ ให้พยายามลองใหม่วันถัดไป
11. อย่าให้เด็กกินอาหารเค็มจัดและหวานจัด
การจัดรายการอาหารและการจัดอาหารสำหรับเด็ก
1. อาหารหลัก เป็นอาหารที่คุณค่าทางโภชนาการในการเสริมสร้างความเจริญเติบโต มีคุณค่าทางอาหารมาก เพื่อความสะดวก ของผู้เลี้ยงดูเด็ก ควรจัดเป็นรูปแบบอาหารจานเดียวที่มีความสมบูรณ์แบบทั้งคุณค่าทางโภชนาการและเด็กสะดวกในการกินอาหารจานเดียว
2.อาหารว่าง เป็นอาหารที่มิใช่อาหารคาวหรืออาหารหวาน แต่เมื่อเด็กกินแล้วอิ่มใช้สำหรับเสริมให้แก่เด็กก่อนกินอาหารกลางวันเวลา 10.00 น. เพราะเด็กบางคนอาจกินอาหารเข้ามาน้อยหรือไม่ได้กินเลยและก่อนกลับบ้านเวลา 14.00 น. เพื่อเสริมหากเด็กกินข้าวเที่ยงน้อยหรือมิให้ท้องว่างไปก่อนกินอาหารเย็น ควรเป็นอาหารที่เตรียมง่าย
3. อาหารหวาน เป็นอาหารที่สามารถเสริมคุณค่าของอาหารหลักได้จะมีรสชาติหวานน้อยไปจนหวานมาก ผู้เลี้ยงดูเด็กไม่ควรเลือกอาหารที่ให้ความหวานแต่เพียงอย่างเดียวควรเลือกขนมหวานที่มีคุณค่าทางโภชนาการด้วย
วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2561
ครั้งที่ 13
10 เมษายน 2561
วันนี้อาจารย์สอนเรื่อง " การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมในเด็กปฐมวัย "
ความหมายของคำว่า " จริยธรรม "
" จริยธรรม " คือ หลักแห่งการประพฤติ ปฏิบัติที่ดี ที่เหมาะที่ควร
" จริยธรรม " คือ หลักคำสอนที่ว่าด้วยแนวทางการประพฤติที่เป็นหลักการและเป็นที่ยอมรับนับถือ
ทฤษฎีจริยธรรมตามแนวคิดการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของโคลเบอร์ก
เป็นนักจิตวิทยาที่อธิบายถึงจริยธรรมของคนที่พัฒนาขึ้นไปพร้อมๆกับความสามารถในการคิดเชิงเหตุโดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับก่อนเกณฑ์ ระดับกฎเกณฑ์สังคม และระดับเลยกฎเกณฑ์ของสังคม สำหรับเด็กปฐมวัยจะอยู่ในขั้นแรกของทฤษฎีคือระดับก่อนกฎเกณฑ์เด็กวัยนี้จึงตัดสินความถูกผิดจากความรู้สึกของตนเอง
ทฤษฎีการเรียนรู้จริยธรรมด้วยการกระทำตามแนวคิดของสกินเนอร์
นักจิตวิทยากลุ่มพฤติกรรมนิยมเป็นผู้เสนอทฤษฎีที่มีความเชื่อว่าพฤติกรรมของคนเกิดจากการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมผลจากการแสดงพฤติกรรมนั้นจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าพฤติกรรมนั้นจะมีแนวโน้มเกิดขึ้นอีกหรือไม่ในสถานการณ์ที่คล้ายกับสถานการณ์เดิม
ทฤษฎีการเรียนรู้พฤติกรรมจริยธรรมตามแนวคิดของแบนดูรา
นักจิตวิทยาสังคม อธิบายว่าพฤติกรรมส่วนใหญ่ของคนในสังคมเกิดจากการเรียนรู้โดยการสังเกตจากตัวแบบ ทั้งตัวแบบในชีวิตจริงหรือตัวแบบที่เป็นสัญลักษณ์ทั้งนี้ตัวแบบจะทำหน้าที่ทั้งสร้างหรือพัฒนาพฤติกรรมจริยธรรมและทำหน้าที่ในการระงับ พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
๘ คุณธรรมพื้นฐาน
1.ขยัน
2.ประหยัด
3.ซื่อสัตย์
4.มีวินัย
5.สุภาพ
6.สะอาด
7.สามัคคี
8.มีน้ำใจ
วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2561
ครั้งที่ 12
3 เมษายน 2561
วันนี้อาจารย์ได้พาไปเข้าร่วมชมงานนิทรรศการ ๑๒๕ ปี อัยการไทย
ไปนั่งฟังบรรยายเกี่ยวกับกฎหมายอัยการ
หลังจากนั้นอาจารย์ก็ได้พาไปชมสุนัขตำรวจมีการจัดการแสดงความสามารถของสุนัขโดยฟังคำสั่งจากตำรวจแล้วก็ให้หายาเสพติดตามจุดที่ได้ซ่อนไว้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ครั้งที่ 15
24 เมษายน 2561 วันนี้อาจารย์ให้จับกลุ่มกัน 3 กลุ่ม แล้วคิดเมนูอาหารขึ้นมาโดยประกอบไปด้วย อาหารจานหลักและขนมหวาน กลุ่มข...

-
3 เมษายน 2561 วันนี้อาจารย์ได้พาไปเข้าร่วมชมงานนิทรรศการ ๑๒๕ ปี อัยการไทย ไปนั่งฟังบรรยายเกี่ยวกับกฎหมายอัยการ หลั...
-
24 เมษายน 2561 วันนี้อาจารย์ให้จับกลุ่มกัน 3 กลุ่ม แล้วคิดเมนูอาหารขึ้นมาโดยประกอบไปด้วย อาหารจานหลักและขนมหวาน กลุ่มข...
-
17 เมษายน 2561 อาจารย์ให้จับกลุ่มเลือก ๘ คุณธรรมพื้นฐาน กลุ่มของพวกเราเลือก " ขยัน " อาจารย์ให้หาวิดีโอเกี่ยวกับสิ่งที่เราเลื...